ในวันที่ 21 มีนาคม คนไทยหลายๆคนอาจจะรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 29 ของประเทศไทย แต่วันนี้ยังเป็นวันเกิดของบุคคลสำคัญอีกคนของโลก คือ โจฮันน์ เซบัสเตียน บาค โรงพิมพ์ท็อปมัลติพริ้นทส์นำความรู้มาฝากกันครับ
วันกวีนิพนธ์สากล
โจฮันน์ เซบัสเตียน บาค เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2228 ณ เมืองไอเซนาค ประเทศเยอรมัน เป็นบุตรของ Johann Ambrosius Bach นักไวโอลินฝีมือดีแห่งเมืองไอเซนาค แม่ชื่อ Elisabeth Lammerhirt Bach ตระกูลบาคเป็นตระกูลใหญ่และเก่าแก่มาก ดำเนินอาชีพทางดนตรีสืบต่อกันมาเป็นเวลานานกว่าสอง ศตวรรษ “โจฮันน์เซบัสเตียน บาค เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในตระกูลนี้ ถ้าพูดถึง 3 B ผู้ยิ่งใหญ่แล้ว หมายถึงบาคร่วมอยู่ด้วย บาคได้รับการศึกษาในชั้นต้นจากโรงเรียนประจำท้องถิ่น และขณะเดียวกันก็ได้เรียนไวโอลินและวิโอลา กับพ่อของเขาไปด้วย เมื่อบาคอายุได้ 9 ขวบ แม่ของเขาก็ถึงแก่กรรม ทำความเศร้าโศกให้แก่เขาเป็นอย่างมาก แม่ถึงแก่กรรมไม่นานนัก พ่อของเขาก็แต่งงานใหม่ และต่อมาไม่ถึงปีก็ต้องสูญเสียพ่ออันเป็นที่รักยิ่งของเขาไปอีก เขามีอายุเพียง 10 ขวบ เท่านั้นต้องกำพร้าทั้งพ่อและแม่ไม่ทราบจะไปพึ่งใคร จึงไปขออาศยอยู่กับพี่ชายคนโตชื่อ โจฮันน์ คริสโตฟ ซึ่งขณะนั้นทำงานเป็นนักออร์แกนประจำอยู่ที่โบสถ์เซนต์ไมเคิล(St. Michael) ในเมืองโอร์ดรูฟ(Ohrdruf) ซึ่งอยู่ห่างจกเมืองไอเซนาคประมาณ 30 ไมล์ พี่ชายได้อุปการะให้เรียนต่อที่โรงเรียนในท้องถิ่นนั้น บาครู้สึกว่าตนมีโอกาสดีอย่างยิ่งเพราะที่บ้านของพี่ชายมีเครื่องดนตรีเกือบทุกชนิด เขาได้ขอให้พี่ชายสอนคลาเวียร์ให้เป็นครั้งแรก และต่อมาก็ได้เรียนออร์แกน บาคเรียนดนตรีทั้งสองได้รวดเร็วจนเกือบจะทัดเทียมพี่ชาย บางครั้งทำให้พี่ชายอิจฉาในความเป็นอัจฉริยะของเขา แสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดแจ้ง เพราะกลัวน้องชายจะเก่งเกินหน้า จึงกีดกันเสมอๆ โดยห้ามไม่ให้น้องชายเอาโน้ตเพลงสำหรับออร์แกนของนักดนตรีชั้นเยี่ยมของเยอรมันที่เขาจะเก็บสะสมเอาไว้ไปดู ได้เก็บโน้ตเหล่านั้นใส่ตู้ใส่กุญแจอย่างแน่นหนา ด้วยเหตุผลที่บาคมีความปราถนาอย่างแรงกล้าที่จะเล่นออร์แกนจากโน้ตชิ้นเยี่ยมๆ เหล่านั้นให้ได้ เขาพยายามหาโอกาสแอบเอาโน้ตที่พี่ชายซ่อนเอาไว้ออกมาคัดลอกไว้ที่ละน้อย ในตอนกลางคืนเดือนหงาย เพราะเขาไม่มีตะเกียงหรือแม้แต่เทียนไขสักเล่มเดียว บาคพยายามลอกโน้ตเพลงเหล่านั้นอยู่นานถึง 6 เดือน จึงสำเร็จ นับว่าเขามีความอุตสาหะอย่างยอดเยี่ยมจริงๆ วันหนึ่งพี่ชายของเขาได้เข้ามาพบในขณะที่เขากำลังเล่นคลาเวียร์ จากโน้ตที่เขาลอกไว้อย่างเพลิดเพลิน พี่ชายเขาโกรธมาก จึงคว้าเอาโน้ตเพลงทั้งหมดที่เขาพยายามลอกถึง 6 เดือนโยนเข้าเตาไปอย่างไม่ปราณี บาคนั่งมองด้วยความขมขื่นและเสียดายเป็นอย่างยิ่ง นอกจากเล่นดนตรีได้เก่งแล้วบาคยังสามารถร้องเพลงได้ไพเราะมากจนพวกเด็กๆนักร้องรุ่นเดียวกันสู้ไม่ได้ เมื่อบาคอายุได้ 15 ปี ฐานะทางครอบครัวของพี่ชายขาดแคลนถึงขั้นทรุดนัก จึงกระทบกระเทือนถึงการเล่าเรียนของบาคประจวบกับในเวลานั้น มีครูสอนดนตรีคนหนึ่งมาจากโบสถ์เซนต์ไมเคิล แห่งเมือง Luneburg มาพบบาคเข้าและเห็นว่าเป็นเด็กที่มีน้ำเสียงไพเราะและมีแววในทางดนตรีอยู่มาก จึงชักชวนบาคเป็นนักร้องหมู่ประจำโบสถ์เซนต์ไมเคิล บาคจึงตัดสินในไปเผชิญชีวิตด้วยตนเอง บาคได้เดินทางติดตามครูดนตรีไปยังเมือง Luneburg ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองโอร์ดรูฟขึ้นไปทางเหนือประมาณ 200 ไมล์ และได้เป็นนักรองประจำโบสถ์เซนต์ไมเคิลในปี พ.ศ. 2244 บาคอายุได้ 16 ปี เสียงที่เคยแหลมและไพเราะกลายเป็นเสียงแตกห้าว ร้องเพลงไม่ได้ จึงทำหน้าที่เป็นนักไวโอลินและวิโอลาแทนการขับร้อง ขณะที่บาคประจำอยู่ที่โบสถ์เซนต์ไมเคิลนี้ เขาได้เทคนิคการเล่นออร์แกนและหัดแต่งเพลงไปด้วย เขาอยู่ที่นี่ 3 ปี มีโอกาสดูตัวอย่างการเล่นออร์แกนของ Georg Bohm นักแต่งเพลงและนักออร์แกนชั้นเยี่ยมแห่งโบสถ์เซนต์จอห์น(St.John) ครั้งหนึ่งในปีเดียวกันนี้ บาคได้ทราบข่าวว่าที่เมืองแฮมเบอร์ก มีนักออร์แกนที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งชื่อ แจน อดัมส์ ไรน์แคน ซึ่งขณะนั้นอายุ 78 ปี กำลังเปิดการแสดงการเล่นออร์แกนอยู่บาคตั้งใจจะไปฟังให้ได้ พอถึงวันหยุดเรียนเขาจึงเดินทางไปยังเมืองแฮมเบอร์กซึ่งอยู่ไกลถึง 30 ไมล์ เมื่อได้เห็นและได้ฟังการเล่นออร์แกนของนักดนตรีผู้เฒ่าแล้ว มีความพอใจเป็นอย่างยิ่ง เขาได้เดินทางไปฟังอีกหลายครั้ง แต่ละครั้งเดินทางโดยเท้าทั้งสิ้น เมื่อบาคอายุได้ 18 ปี้ เขาได้ลาออกจากโบสถ์เซนต์ไมเคิล แล้วเดินทางไปเมืองไวมาร์ เพื่อสมัครเป็นนักไวโอลินและออร์แกนประจำวงดนตรีของดยุค Johann Ernst ทำงานอยู่ที่เมืองนี้ไม่นานก็ได้ลาออกเกดินทางไปยังเมืองอาร์น สตัดท์ ที่เมืองนี้มีโบสถ์สร้างเสร็จใหม่ๆ ชื่อเซนต์โบนิเฟซ (St. Boniface) กำลังต้องการนักออร์แกนอยู่ บาคจึงสมัครเป็นนักออร์แกนประจำโบสถ์ ขณะที่ทำงานอยู่ทีโบสถ์แห่งนี้ บาคได้แต่งเพลงสำเร็จเพลงหนึ่งได้แก่เพลง Easter Cantata ต่อมาในปี พ.ศ. 2248 เขาได้รู้จักกับหญิงสาวสวยตระกูลเดียวกัน คนหนึ่งชื่อมาเรีย บาร์บารา (Maria Barbara) ได้สนิทสนมรักใคร่กันถึงกับตกลงว่าจะแต่งงานกัน ปีต่อมานักออร์แกนประจำโบสถ์เซนต์แบสีอุส( St. Blasius) แห่ง เมืองมึลเฮาเซนได้ว่างลงเนื่องจากนักออร์แกนคนเก่าถึงแก่กรรมบาคได้ทราบข่าว นี้จึงคิดจะไปอยู่ที่นั่นเพราะบาคเคยมีเรื่องถูกตำหนิจากผู้บังคับบัญชา เนื่องจากลาหยุดงานไปฟังการเล่นออร์แกนของนักออร์แกนที่เชี่ยวชาญคนหนึ่ง แห่งเมืองลือเบค มีกำหนดลา 1 เดือน แต่บาคมัวเพลิดเพลินกับการฟังเกือบ 4 เดือน ในที่สุดบาคก็ได้ลาออกจากที่ทำงานเดินทางไปทำงานในตำแหน่งนักออร์แกนประจำโบสถ์เซนต์แบลสิอุส และได้แต่งงานกับมาเรีย บาร์บารา ในปี พ.ศ. 2250 ซึ่งขณะนั้นบาคมีอายุ 22 ปี เจ้าสายของเขาอายุ 23 ปี ทำงานอยู่ที่โบสถ์เซนต์แบลซิอุสได้เพียงปีเดียวก็ลาออก แล้วย้ายไปอยู่ที่เมืองไวร์มาอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เขาได้รับตำแหน่งนักออร์แกนประจำวงดนตรีของดยุค Wilhelm Ernst ในตอนนี้บาคมีชื่อเสียงในการเล่นออร์แกนโด่งดังมาก ปีต่อมาบาคมีลูกคนแรกเป็นหญิง หลังจากได้ลูกสาวคนแรกแล้วเขาได้แต่งเพลงออร์แกนขึ้นอีกหลายเพลง ปี พ.ศ. 2253 มีลูกคนที่ 2 เป็นชาย บาคได้เดินทางไปยังเมืองต่างๆ เสมอ เพื่อไปติดตั้งออร์แกนใหม่ให้กับโบสถ์ประจำเมืองนั้นๆ ปี พ.ศ. 2257 บาคมีบุตรคนที่ 3 เป็นชาย ชื่อ คาร์ล ฟิลิปป์ เอมานูเอล และใน ปีพ.ศ. 2259 บาคมีบุตรคนที่ 4 และในปีนี้ได้แต่งเพลง Cantata ขึ้นเพลงหนึ่งชื่อ Was mir behagt บาคทำงานอยู่ที่เมืองไวร์มาเป็นเวลานานถึง 9 ปี เริ่มตั้งแต่เล่นออร์แกนจนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าวงดนตรี ต่อมาไม่นาน ตำแหน่งผู้อำนวยการดนตรีก็ว่างลงเนื่องจากคนเก่าถึงแก่กรรม บาคก็หวังจะได้ตำแหน่งนี้ แต่ก็ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ เมื่อเขาผิดหวังเขาก็ตกลงใจที่จะไปเป็นผู้อำนวยการแก่ราชสำนักของเจ้าชายเลโอโปลด์ (Leopold) ตามที่ได้ทาบทามมา ที่ราชสำนักของเจ้าชายเลโอโปลด์บาคควบคุมวงดนตรี ซึ่งมีนักดนตรีทั้งหมด 18 คน ขณะที่ประจำอยู่ที่นี่เขาได้แต่งเพลง Cantata ขึ้นหลายเพลง ในปี พ.ศ. 2262 บาคได้เดินทางไปอังกฤษ เยอรมันนีและแวะไปเยี่ยมบ้านเกิดของตนเองที่เมืองไอร์ซนาค ในระยะนี้ได้แต่งเพลงสำหรับคลาเวียร์และแชมเบอร์มิวสิคหลายเพลง ในปี พ.ศ. 2263 บาคได้ติดตามเจ้าชายเลโอโปลด์ไปยังเมืองคาร์ลสบาค เมื่อเดินทางกลับถึงเมืองคูเธน ก็ได้ทราบข่าวร้ายภรรยาของตนได้ถึงแก่กรรมเสียแล้ว บาคเสียใจมาก เขาต้องประสบกับความยุ่งยากและลำบากอย่างยิ่ง เพราะต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกต่อไปแต่เพียงผู้เดียว ชีวิตของเขาต้องระเหเร่ร่อนไปเรื่อยๆ ที่ไหนถูกใจก็อยู่ได้นาน ที่ไหนไม่ถูกใจก็เดินทางต่อไป ขณะที่เขาอยู่กับเจ้าชายเลโอโปลด์เขารู้สึกสะดวกสบายกว่าแห่งอื่น บาคได้สอนดนตรีให้แก่เจ้าชายทุกอย่างตามที่ต้องการ เจ้าชายจึงรักใคร่นับถือเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม บาคก็อยู่กับเจ้าชายได้ไม่นานนัก เนื่องจากชายาของพระองค์ไม่ชอบดนตรี แสดงความไม่พอใจบาค บาคจึงหางานใหม่ เขาได้ติดต่อไปยังโบสถ์เซนต์จาคอป(St. Jacob) ที่เมืองแฮมเบอร์ก เพื่อที่จะสมัครเป็นนักออร์แกนแต่ก็ผิดหวัง เขาจึงจำใจอยู่กับเจ้าชายต่อไป ปีต่อมาเขาได้แต่งเพลง Concerto สำเร็จ 6 เพลง มีชื่อว่า “Brandenburg Concerto” นอจากนั้นมีเพลง Suites, Sonata หลายเพลง เพลงสำหรับคลาเวียร์อีกหลายเพลง นอกจากแต่งเพลงแล้วบาคยังได้เขียนหนังสือแนวทางสำหรับการเรียนดนตรีไว้ 2 เรื่องมี Inventions และ The Little Note book of Anna Magdalena สำหรับให้ลูก ๆ ได้ศึกษาดนตรี ทั้งภาคทฤษฎีและแบบฝึกหัดต่างๆ หลังจากภรรยาตายไปประมาณ 1 ปี เขาก็พบกับรักใหม่กับแอนนา แมกดาเลนา วิลเคน และได้แต่งงานกันในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2264 ซึ่งขณะน้นเจ้าสาวของเขาอายุเพียง 20 ปี และตัวเขาเองอายุ 36 ปี บาคได้สอนแอนนาเล่นคลาเวียร์จนกระทั่งสามารถเล่นได้เป็นอย่างดี นอกจากเล่นคลาเวียร์แล้วยังสามารถร้องเพลงได้อีกด้วยแอนนาช่วยเหลือบาคได้อีกด้วย แอนนาช่วยเหลือบาคได้มาก เช่นช่วยลอกโน้ตเพลงที่แต่งไว้ได้อย่างเรียบร้อย ในปี พ.ศ. 2265 หัวหน้านักร้องประจำโบสถ์เซนต์ โธมัส (St.Thomas) ได้ถึงแก่กรรมตำแหน่งจึงว่างลง มีนักดนตรีที่มีชื่อเสียงไปสมัครหลายคน บาคก็ได้สมัครด้วย ในระหว่างที่บาคเดินทางไปสมัคร เขาได้เปิดการแสดงเพลงแคนตาตาที่เขาแต่งเองอีกด้วย จากนั้นก็กลับเมืองคเธนอีก เพื่อจะฟังผลการสมัครงานในไม่ช้าคณะกรรมการก็ตัดสิน ให้บาคเข้ารับตำแน่งดังกล่าว เมื่อบาคทราบข่าวก็ได้ลาออกจากสำนักของเจ้าชายเลโอโปลด์เดินทางไปยังเมืองไลพ์ซิก เพื่อรับตำแหน่งดังกล่าว ในปี พ.ศ. 2283 นัยตาของบาคเริ่มพร่ามัวลง บาครู้สึกลำบากใจเกี่ยวกับสายตาอยู่มาก อย่างไรก็ตามบาคก็ได้อุตสาห์แต่งเพลงต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้งและต่อมาในปี พ.ศ. 2290 เขาได้เดินทางร่วมกับวิลเฮล์ม ฟรายด์มันด์ ลูกชายคนโตเพื่อไปร่วมในพิธีแต่งงานของ คาร์ล ฟิลิปป์ เอมานูเอล ลูกชายคนที่ 2 ซึ่งกำลังมีชื่อเสียงอยู่ในสำนักของพระเจ้าเฟรเดริคมหาราชดังกล่าวแล้ว พระเจ้าเฟเดริคมหาราชเป็นพระมหากษัตริย์ที่สนพระทัยดนตรี พระองค์ทรงโปรดขลุ่ย(Flute) มากที่สุดวันหนึ่งขณะที่พระองค์กำลังทรงขลุ่ยร่วมกับนักดนตรีของพระองค์ ได้ทราบข่าวว่าบาคได้เดินทางมาเยี่ยมบุตรชาย พระองค์ทรงตื่นเต้นและออกมาต้อนรับด้วยพระองค์เอง หลังจากเสร็จธุระที่ปอตสดัมแล้ว บาคก็เดินทางกลับเมืองไลพ์ซิก เขาได้เริ่มแต่งเพลงอีกเพลงหนึ่งตามแนวของพระเจ้าเฟเดริคมหาราชคือเพลง “Musikalisches Opfer” เมื่อแต่งเสร็จก็ส่งไปถวายพระเจ้าเฟเดริคมหาราช ปี พ.ศ. 2291 บาคได้เริ่มแต่งเพลง ใหม่อีกเพลง คือ “Die Kunst der Fugue” หลังจากนั้นสุขภาพก็เสื่อมโทรมลงมาก ตาที่เคยพร่ามัวอยู่แล้วก็เริ่มบอดไม่สามารถมองเห็นอะไรได้อีก เขากลายเป็นคนพิการ โบสถ์เซนต์โธมัสก็ปลดเขาออกจากงาน บาคได้รับการทรมานจากการเจ็บปวดลูกนัยน์ตาจนซูบผอม อาการป่วยก็ทรุดหนักลงเรื่อยๆ แม้เขากำลังเจ็บป่วยอยู่ก็ตาม เขาก็ยังเป็นห่วงงานในด้านเพลงที่เขาแต่งค้างไว้ จึงได้พยายามที่จะแต่งต่อให้เสร็จ เขาพยายามแต่งต่อโดยวิธีให้คนอื่นจดโน้ตเพลงตามคำบอก เขาแต่งโดยวิธีนี้ต่อไปจนจบ 2 เพลง คือ เพลง When We are in Deepest Need และเพลง Before Toy Throne I come บาคได้ให้หมอผู้เชี่ยวชาญชาวอังกฤษทำการผ่าตัดลูกตาหลายหน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ กลับบอดสนิทยิ่งขึ้น หลังจากได้ทำการผ่าตัดลูกตาไม่กี่วัน อาการป่วยของบาคก็เพียบหนักลงทุกทีจนกระทั่งค่ำวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2293 รวมอายุได้ 65 ปี บาคก็สิ้นใจท่ามกลางความอาลัยของบรรดาลูกๆ ซึ่งมีทั้งหมดถึง 20 คน (เกิดจากภรรยาเก่า 7 คน ภรรยาใหม่ 13 คน) ภรรยา ลูกศิษย์และมิตรสหายทั้งหลาย ศพของเขาได้ทำพิธีฝังไว้ใกล้ๆ กับโบสถ์เซนต์จอห์น ณ เมืองไลพ์ซิก ต่อไปนี้เป็นผลงานบางส่วนของ Johann Sebastian Bach ที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่ง โดยมี BWV หรือ Bach-Werke- Verzeichnis (หมายเลขงานของบาค) เป็นหลัก 1.Cantata (เสียงร้องที่มีเพลงมาประกอบ) BWV 1-224 2. Passion (เพลงเล่าเรื่องตอนที่พระเยซูกำลังจะถูกตรึงกางเขน) ที่โด่ง ดังคือ BWV 244 St. Matthew Passion และ BWV 245 St. John Passion 3.Chorales (เพลงสวดในโบสถ์) BWV 250-438 4. Preludes and Fugues, Toccatas and Fugues, and Fantasies for organ BWV 531–591 5.Well-Tempered Clavier BWV 846-893 6. Goldberg Variation BWV 988 7. Violin Concerto BWV 1041-1045 8. Brandenburg Concerto BWV 1046-10451 9.Air on a G string จาก Orchestra suite no.3 BWV 1069 10.Note book for Anna Magdalena Bach Minuet in G (BWV ahn 114)
โรงพิมพ์ท็อปมัลติพริ้นทส์ขอบคุณ : https://mrvop.wordpress.com/2010/03/21/bach/ http://www.sema.go.th
|
วันที่: Fri May 02 20:22:30 ICT 2025
|
|
|